Loading...

Menu

Menu

ที่ท่องเที่ยว

ล่องแก่งลำน้ำว้า อุทยานแห่งชาติแม่จริม จ.น่าน- เช่ารถเชียงใหม่

ล่องแก่งลำน้ำว้า อุทยานแห่งชาติแม่จริม จ.น่าน

จัดว่าเป็นที่สุดแห่งการล่องแก่งในเมืองไทย และยังติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเอเชียอีกด้วย  ซึ่งในฤดูฝนน้ำจะมาก ส่วนในฤดูหนาวน้ำจะใสมาก แบ่งเป็น 3 ตอน คือ

  • น้ำว้าตอนบน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวที่หนักไปทางผจญภัย เพราะมีแกงกว่า 100 แก่ง ผ่านโขดหินใหญ่ น้ำวน และน้ำตกเป็นระยะ เส้นทางเริ่มจากบ้านสปันไปถึงบ้านสบมาง ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร
  • น้ำว้าตอนกลาง เส้นทางเริ่มจากบ้านสบมางไปถึงบ้านวังลุน ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร  ใช้เวลาล่องถึง 2 วัน ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเกาะแก่งและวังน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่านหุบเขา กระแสน้ำแรง บางช่วงมีน้ำวน จึงเหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ล่องแก่งเท่านั้น
  • น้ำว้าตอนล่าง มีระยะทาง 12 กิโลเมตร สามารถล่องแก่งได้ทั้งปี  เป็นช่วงการล่องแก่งที่เล็กและเบาที่สุด เหมาะสำหรับนักผจญภัยมือใหม่ทุกคน
สำหรับช่วงเวลาเหมาะสมในการล่องแก่งแต่ละช่วงของลำน้ำว้าก็จะต่างกันไป อย่างเช่นลำน้ำว้าตอนบนเหมาะที่จะล่องแก่งในช่วงต้นฤดูหนาว หลังจากนั้นระดับน้ำจะลด ทำให้มีโขดหินที่เป็นอุปสรรคในการล่องเรือยาง ส่วนสำหรับลำน้ำว้าตอนกลางเหมาะสมที่จะล่องแก่งในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ และลำน้ำว้าตอนล่างสามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี โดยลำน้ำว้าตลอดทั้งสายมีระยะทางรวมกว่า 100 กิโลเมตร ทำให้ไม่สามารถล่องแก่งในคราวเดียวกันจนสุดเส้นทางได้ จึงมีการแบ่งเส้นทางล่องแก่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
- เส้นทางช่วงแรก “ลำน้ำว้าตอนบน” เริ่มเส้นทางจากบ้านสปันไปถึงบ้านสบมาง มีระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร โดยช่วงแรกของเส้นทางจะล่องผ่านผืนป่าที่ยังคงสภาพความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก บางช่วงจะเป็นป่าดิบแล้ง และบางช่วงจะเป็นป่าดิบชื้น ริมน้ำบางช่วงยังสามารถพบรอยของสัตว์ป่าและนกหายากได้อีกด้วย เมื่อล่องแก่งมาได้ประมาณ 20 นาที ก็จะเริ่มเจออุปสรรคจากแก่งต่างๆ ที่มีทั้งโขดหินขนาดใหญ่ น้ำวน และน้ำตกที่มีอยู่เป็นระยะ มีการล่องผ่านแก่งต่างๆ เช่น แก่งเสือเต้นหนึ่ง แก่งโป่ง แก่งเลาอู แก่งสบห้วยหลวง แก่งเฮี้ย แก่งกูด และแก่งสบแปด ซึ่งเป็นแก่งที่มีความยากระดับ 3-4 รวมทั้งยังมีแก่งเล็กๆ น้อยๆ อีก จนถึงแก่งความยากระดับ 5 นั่นคือแก่งถ้ำหอก โดยจุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สุดๆ ของการล่องแก่งลำน้ำว้าตอนบน นั่นก็คือช่วงที่ต้องล่องผ่าน แก่งห้วยเมี่ยง แก่งวังลิง แก่งสบห้วยผา แก่งวังซาง แก่งเสือเต้นสอง แก่งวังพุธ แก่งวังแก๋ว แก่งวังโก่ม แก่งเล่องาม และแก่งสบห้วยอ้อ จากนั้นก็เป็นแก่งเล็กแก่งน้อยจนไปสิ้นสุดที่แก่งสบมาง โดยมีระยะห่างระหว่างแต่ละแก่งแค่เพียง 20-30 เมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าไม่ต้องหยุดพักหายใจกันเลยทีเดียว

เส้นทางช่วงที่สอง “ลำน้ำว้าตอนกลาง” เส้นทางเริ่มจากบ้านสบมางไปถึงบ้านวังลุน มีระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร อาจต้องใช้เวลาถึง 2 วันในการล่องแก่งตลอดเส้นทางผ่านแก่งน้อยแก่งใหญ่รวมกันกว่า 100 แก่ง โดยมีระดับความยากสูงสุดอยู่ที่ระดับ 5 ลักษณะทั่วไปของลำน้ำจะมีแก่งและวังน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่าน บริเวณหุบเขาสองฟากฝั่งจะเขียวชะอุ่มไปด้วยผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเนื่องจากลำน้ำว้ามีความกว้างและลึก ทำให้กระแสน้ำไหลเร็วและแรง ส่งผลให้ระหว่างทางต้องเจออุปสรรคต่างๆ ทั้งคลื่นที่สูงและกระแสน้ำวน บางแก่งก็จะมีน้ำตกขนาดเล็กๆ ใต้น้ำมีโขดหิน เกิดกระแสน้ำวนอยู่ด้านล่างที่จะสามารถดูดเรือของเราให้ติดหรือคว่ำได้ตลอดเวลา จึงต้องใช้ทักษะและพละกำลังพอสมควร แนะนำว่าช่วงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การในล่องแก่งมาแล้วเท่านั้น

เส้นทางช่วงที่สาม “ลำน้ำว้าตอนล่าง” มีระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นช่วงการล่องแก่งที่เล็กและเบาที่สุดใน 3 ช่วงของการล่องแก่งลำน้ำว้า มีระดับความยากอยู่ที่ 1-3 เหมาะสำหรับนักผจญภัยมือใหม่ทุกเพศทุกวัย เริ่มต้นการล่องแก่งจากแก่งปง ผ่านแก่งน้อยใหญ่มากมาย สร้างความสนุกตื่นเต้นได้ไม่น้อย จนไปสิ้นสุดปลายทางการล่องแก่งที่ปางช้าง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และถ้ายังพอมีเวลาก็สามารถลอยคอ เล่นน้ำ ชมธรรมชาติเพลินๆ ได้อีกเช่นกัน

ข้อควรรู้ก่อนออกเที่ยว
ก่อนออกเดินทางไปล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน ควรโทรไปตรวจสอบระดับความแรงของกระแสน้ำกับผู้ประกอบการก่อน เพื่อดูความเหมาะสมในการล่องแก่ง และขอความร่วมมือเมื่ออยู่บนเรือควรเชื่อฟังคำสั่งของนายหัวและท้ายเรืออย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย